หลายออฟฟิศเริ่มเปิดให้บุคลากรกลับเข้าไปทำงานสลับกับการ Work from Home บ้างแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน การสร้างนิสัยการประหยัดพลังงานกับอุปกรณ์สำนักงานก็เป็นสิ่งสำคัญ “โน้ตบุ๊ก” นับเป็นเครื่องมือในการทำงานที่มีความสำคัญ โน้ตบุ๊กออกแบบให้เป็นคอมพิวเตอร์ที่นำติดตัวไปใช้งานนอกสถานที่ได้โดยสะดวก แต่มีข้อจำกัดเรื่องแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเครื่องนั้นๆ จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานกี่ชั่วโมง ซึ่งใครๆ ก็อยากจะประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่โน้ตบุ๊ก ให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องให้ได้นานที่สุดแน่นอน ดังนั้นเรามาดูวิธีการใช้โน้ตบุ๊กให้ประหยัดพลังงาน และมีประสิทธิภาพที่ดีกัน

1. ปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม : การที่หน้าจอโน้ตบุ๊กสว่างมากเกินไป นอกจากจะส่งผลเสียกับสายตาแล้ว ยังทำให้เปลืองพลังงาน เพราะยิ่งสว่าง เครื่องก็ยิ่งต้องทำงานหนักขึ้น พอเครื่องร้อนขึ้นก็จะไปสั่งให้พัดลมทำงาน แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น ทำให้ระยะเวลาในการใช้งานเครื่องสั้นลง
2. จัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์อย่างสม่ำเสมอ (Defragment) : ฮาร์ดดิสก์ก็เป็นส่วนประกอบที่กินพลังงานไม่แพ้หน้าจอ ถ้าเราสามารถเข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้ไวขึ้น ก็ยิ่งจะสามารถลดพลังงานได้มากขึ้น วิธีการหนึ่งที่ทำให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ ก็คือการ Defragment หรือจัดเรียงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์นั้นเอง
3. ปิดโปรแกรมที่อยู่ด้านหลัง : เน้นเฉพาะโปรแกรมที่คุณไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือไม่ได้ใช้งานเลย ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมาจากการที่เวลาลงโปรแกรมอะไรไป โปรแกรมพวกนี้จะรันพร้อมกับวินโดวตอนเปิดเครื่อง เป็นสาเหตุทำให้เครื่องช้าลง และใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
4. ในกรณีที่ใช้งานทั่วไปควรตั้งค่าที่ส่วนของ Power Option ให้เป็น Power Saver : การตั้งค่าให้เป็น power saver จะช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น และใช้เครื่องได้นานขึ้น แต่ระบบจะลดความเร็วของ CPU และ ลดความสว่างของหน้าจอลง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับบางงาน จึงควรเลือกใช้ตามความเหมาะสม
5. ดึงอุปกรณ์ภายนอกที่ไม่ได้ใช้ออก : อุปกรณ์ USB ต่างๆ ที่ต้องเสียบไว้กับเครื่อง จะดึงพลังงานออกไปจากแบตเตอรี่อยู่เสมอ ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม แม้แต่เม้าส์และตัว WiFi ถ้าหากไม่ได้ใช้งานก็ควรจะปิด เพื่อให้ประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด และให้ใช้เครื่องได้นานขึ้น

การใช้โน้ตบุ๊กให้ประหยัดพลังงานเป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถนำไปปฏิบัติกันได้ นอกจากจะประหยัดพลังงานจากการใช้ไฟแล้วยังประหยัดเงินในเรื่องของค่าไฟ และทำให้อุปกรณ์สำหรับใช้งานมีประสิทธิภาพดีขึ้นอีกด้วย